ปัจจุบันนี้มีคนหันมาเล่นหวย แทงหวยกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเล่นหวยใต้ดิน ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่ายๆ และมีโอกาสการถูกรางวัลมากกว่าการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล แถมยังสามารถเลือกซื้อเลขที่ชอบได้อย่างอิสระ ซึ่งเล่นเพียงแค่ 2 – 3 ตัว ก็มีสิทธิ์ได้ลุ้นเงินรางวัลกันแล้ว
ที่สำคัญยังสามารถเลือกแทงได้หลากหลายรูปแบบ จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักเดิมพันในยุคนี้เป็นอย่างมาก แต่เชื่อเลยว่าหลายคนคงสงสัยไม่น้อยว่า หวยใต้ดินจ่ายบาทละเท่าไร หากเราถูกรางวัลกันแล้ว หวยใต้ดินจ่ายเงินยังไง? และมีรูปแบบการแทงแบบไหนบ้าง วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
รูปแบบการแทงหวยใต้ดิน หรือหวยรัฐบาล มีกี่รูปแบบอะไรบ้าง?
สำหรับการเล่นหวยใต้ดินนั้น มีรูปแบบการแทงง่ายๆ ส่วนใหญ่แล้วจะลงเดิมพันกันเพียงแค่ 2 ถึง 3 ตัวเท่านั้น โดยทุกรางวัลจะใช้ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลมาอ้างอิง และมีอัตราการจ่ายเงินรางวัลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมีรูปแบบการแทงทั้งหมด 8 รูปแบบดังต่อไปนี้
- 3 ตัวบน / 3 ตัวตรง หรือ 3 ตัวเต็ง คือ การเลือกซื้อเลขให้ตรงกับเลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 ทุกตำแหน่ง
- 3 ตัวโต๊ด คือ การซื้อเลขให้ตรงกับ เลข 3 ตัวท้าย ของรางวัลที่ 1 ตำแน่งใดก็ได้
- เลข 3 ตัวล่าง คือ การซื้อเลขให้ตรงกับ รางวัลเลขท้าย 3 ตัว
- เลข 3 ตัวหน้า คือ การซื้อเลขให้ตรงกับ รางวัลเลขหน้า 3 ตัว
- 2 ตัวบน คือ การซื้อเลขให้ตรงกับ เลข 2 ตัวท้าย ของรางวัลที่ 1 ทุกตำแหน่ง
- 2 ตัวล่าง คือ การซื้อเลขให้ตรงกับ รางวัลเลขท้าย 2 ตัว
- เลขวิ่ง 3 ตัวบน คือ การซื้อเลข 1 ตัว ให้ตรงกับเลขตัวใดก็ได้ใน เลข 3 ตัวท้าย ของรางวัลที่ 1
- เลขวิ่ง 2 ตัวล่าง คือ การซื้อเลข 1 ตัว ให้ตรงกับเลขตัวใดก็ได้ใน รางวัลเลขท้าย 2 ตัว
การเล่นหวยไทย หรือหวยใต้ดิน มีวิธีการคิดเงินรางวัลอย่างไร?
ถ้าให้พูดถึงการคิดเงินรางวัล หรืออัตราการจ่ายเงินของหวยใต้ดิน แน่นอนว่านักเสี่ยงโชคทั้งหลายที่ลงเดิมพันทายผลหวย ต่างก็หวังจะได้เงินรางวัลเป็นการตอบแทน ส่วนใหญ่แล้วจะคิดเงินรางวัลเป็นบาท โดยจะขอยกตัวอย่างการคิดเงินรางวัล 2 รูปแบบหลักๆ คือการซื้อเลข 2 ตัว และ 3 ตัว ดังนี้
การคิดเงินรางวัลหวยใต้ดินแบบ 3 ตัวตรง / โต๊ด
รูปแบบการแทงหวยแบบ 3 ตัว เป็นรูปแบบการเล่นหวยที่คนนิยมซื้อกันเยอะที่สุด เนื่องจากมีอัตราการจ่ายเงินรางวัลสูงสุด ในการซื้อหวยแต่ละครั้งจำเป็นต้องระบุจำนวนเงินว่าต้องการซื้อในราคาเท่าไหร่ เช่น ต้องการซื้อเลข 305 ในราคา 50 บาท โดยจะซื้อทั้งตรง และโต๊ดส่วนใหญ่แล้วจะเขียนในรูปแบบนี้ 305 = 50×50 บาท
ซึ่งหมายความว่าต้องการซื้อเลข 305 แบบสามตัวตรง จำนวน 50 บาท และซื้อเลข 305 แบบสามตัวโต๊ด จำนวน 50 บาท และหากถูกรางวัลจะคิดค่าหวยก็คือ ราคาซื้อ x อัตราการจ่าย ตัวอย่างเช่น 50 x 800 = 40,000 บาทนั่นเอง
การคิดเงินรางวัลหวยใต้ดินแบบ 2 ตัว บน / ล่าง
การแทงหวยแบบสองตัวบน และสองตัวล่าง ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าจะมีอัตราการจ่ายเงินรางวัลไม่เท่ากับเลขสามตัว แต่ก็มีโอกาสการถูกรางวัลที่มากกว่า ซึ่งรูปแบบการซื้อก็จะคล้ายกับการแทงหวยแบบสามตัว ให้ระบุราคาซื้อเช่นเดิม คือต้องการซื้อเลข 33 ในราคา 100 บาท จะเขียนในรูปแบบนี้ 33 = 100×100 บาท
หมายความว่า ต้องการซื้อหวยเลข 33 แบบสองตัวบน จำนวน 100 บาท และซื้อเลข 33 แบบสองตัวล่าง จำนวน 100 บาท หากถูหวยจะคิดค่าหวยก็คือ ราคาซื้อ x อัตราการจ่าย ตัวอย่างเช่น 100 x 90 = 9,000 บาท ไม่ว่าคุณจะถูกบนหรือล่างก็จะได้ค่าหวยเหมือนกัน
จากวิธีการคิดค่าหวยเบื้องต้น ทำให้หลายท่านได้ทราบถึงหลักการคิดค่าหวยกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้มีเว็บหวยออนไลน์จำนวนมาก ต่างก็มีระบบคิดคำนวนค่าหวยให้เรียบร้อย สะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนมาก ทั้งนี้ราคาการจ่ายแต่ละเว็บก็ไม่เท่ากัน เพราะมีเลขอั้นจ่ายครึ่งราคาที่แตกต่างกันออกไป จะมีการจ่ายยังไงนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
การจ่ายเงินรางวัลหวยใต้ดินออนไลน์ มีอัตราจ่ายบาทละเท่าไรบ้าง?
อัตราการจ่ายเงินรางวัลหวยใต้ดิน จะขึ้นอยู่กับเว็บ หรือเจ้ามือแต่ละคนว่ากำหนดอัตราการจ่ายเงินรางวัลไว้ที่เท่าไรบ้าง ซึ่งจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป บางเว็บก็มีอัตรการจ่ายสูงแต่ไม่มีส่วนลดใดๆ เลย ส่วนอีกเว็บจ่ายไม่สูงแต่มีส่วนลดเยอะ โดยทางทีมงานได้รวบรวบการจ่ายผลหวยโดยรวมให้เป็นแนวทางตามตารางด้านล่างนี้
ประเภทการแทงหวย | อัตราจ่าย (บาทละ) |
3 ตัวบน | 800 – 900 |
3 ตัวล่าง | 400 – 450 |
เลข 3 ตัวหน้า | 400 – 450 |
เลข 3 ตัวโต๊ด | 120 – 150 |
2 ตัวบน | 70 -90 |
2 ตัวล่าง | 70 -90 |
เลขวิ่ง 3 ตัวบน | 3.2 |
เลขวิ่ง 2 ตัวล่าง | 4.2 |
สำหรับอัตราการจ่ายเงินรางวัล ในแต่ละรูปแบบการแทงก็จะมีการจ่ายเงินที่แตกต่างการไป ตามโอกาสการถูกรางวัล อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงราคา ในกรณีที่มี เลขอั้น เลขเต็ม ควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะเล่นหวย เอาเป็นว่าจะเลือกลงเดิมพันหวยในอัตราจ่ายเท่าไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนกันเลยค่ะ